09 พฤศจิกายน 2552

ข่าวสารประชาสัมพันธ์

สวัสดีครับทุกท่านที่เข้าเยี่ยมชมสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่เข้าเยี่ยมและแนะนำ ช่วยเหลือ หรือแม้แต่มาร่วมทำกิจกรรมแก่เด็กๆที่นี่ สำหรับเด็กที่นี่เป็นเด็กที่น่าสงสารและก็ต้องการ การเอาใจใส่จากสังคมภายนอก ท่านเชื่อหรือเปล่าครับว่าเด็กบางคนเกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ของเขาเลย ผมยังคิดอยู่นะครับว่า หากไม่มีหน่วยงานหรือสถานที่ ที่ให้เด็กที่พลาดโอกาสทางด้านสังคมเหล่านี้เขาจะอยู่ที่ไหน ต้องขอขอบคุณสถานคุ้มครองอย่างน้อยที่สุดนะครับก็เป็นส่วนหนึ่งให้โอกาสเด็กได้มีการศึกษา การให้คำแนะนำ และก็ต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่เข้ามาทำกิจกรรมที่นี่ ทำให้เด็กบางครั้งคลายเหงา

ท่านสามารถฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านทางเว็บมาสเตอร์ได้ที่ อีเมล s.smileland80@gmail.com โดยตรงได้เลยนะครับ

และใคร่ขอฝากข่าวประชาสัมพันธ์อีกเรื่องหนึ่งครับ สำหรับโรงเรียนและองค์กรการกุศลต่างๆ

ข่าวดี ! ทำเว็บไซด์ฟรี สำหรับโรงเรียนและองค์กรการกุศลทั่วไทย
ระยองเว็บดอทเน็ตได้จัดโครงการ " ทำเว็บไซด์ฟรีให้แก่โรงเรียนและองค์กรการกุศลที่ยังไม่มีเว็บไซด์ทั่วไทย ในระยะแรกขอเริ่มที่จังหวัดระยอง แล้วค่อยขยายไปยังจังหวัดต่างๆ
สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ เว็บมาสเตอร์ระยองเว็บดอทเน็ต
หรือทางอีเมล rayongweb.net@gmail.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...

โรงเรียนหรือหน่วยงานใดที่ต้องการมีเว็บไซด์ สามารถเข้าไปดูได้ที่ เว็บไซด์ระยองเว็บดอทเน็ต คลิ๊กที่นี่

หากมีข่าวสารที่น่าสนใจ หรืออะไรที่เป็นประโยชน์จะมาประชาสัมพันธ์ให้ท่านทราบต่อไป

ด้วยความขอบคุณ

เว็บมาสเตอร์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยองฯ

02 ตุลาคม 2552

เรารักในหลวง

ยินดีต้อนรับสู่เว็บสถานคุ้มครองฯเด็กระยองครับ



เรารักในหลวง ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการป่วยโดยเร็วด้วยเทอญ



ประชาชนยังทยอย ร่วมลงนามทวายพระพรขอให้ ในหลวง ทรงหายพระประชวร อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทางสำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ระบุว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ได้รายงานว่า อุณหภูมิพระวรกายลดลงจนอยู่ในระดับปกติ เสวยพระกระยาหารได้มากขึ้น ทรงพระบรรทมได้ดี คณะแพทย์ฯ จึงได้ลดพระโอสถปฏิชีวนะและลดปริมาณสารอาหารที่ถวายทางหลอดพระโลหิตลง จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป ที่ รพ.ศิริราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีประชาชนต่างทยอยเดินทางมาลงนามถวายพระพร ที่อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ต่างขอพรให้พระองค์ท่านทรงหายพระประชวร และขอให้คนไทยทุกคนร่วมกัน รักสามัคคี เพื่อพระองค์ท่าน ล่าสุดพบยอดรายชื่อประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรกว่า 1 แสนรายชื่อแล้ว

สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง ขอส่งแรงใจจากคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ทุกคน ขอส่งแรงใจให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการเจ็บป่วยโดยเร็วด้วยเทอญ

08 กันยายน 2552

9กันยายน52

ยินดีต้อนรับสู่เว็บสถานคุ้มครองฯเด็กระยองครับ









สามารถเยิ่ยมชมสถานคุ้มครองได้ทุกวัน เพื่อให้กำลังใจกันเด็กๆกันครับ


เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้จัดกิจกรรมถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพรบรมวงศานุวงศ์ ในโครงการ "9 ในดวงใจ" โดยถือฤกษ์งามยามดี วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เวลา 09.09 น. ชวนเชิญพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชานั้น ล่าสุดวันนี้ (9 กันยายน) ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพรบรมวงศานุวงศ์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา โดยที่ทำเนียบรัฐบาล ณ ตึกสันติไมตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในกิจกรรม "9 ในดวงใจ" โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี, ผบ.เหล่าทัพ และผบ.ตร., ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า, ข้าราชการการเมืองในทำเนียบรัฐบาล, ผู้ บริหารรัฐวิสาหกิจ/ภาคเอกชน, ข้าราชการทหาร ตำรวจ เข้าร่วมงาน


สำหรับในส่วนของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยองก็ได้มีกิจกรรมนี้เช่นเดียวกัน และที่สำคัญมากกว่านั้น วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้บริหารสถานคุ้มครองฯ ทางข้าราชการ เจ้าหน้าที่ คณะเจ้าหน้าที่ และนักเรียนทุกคน ขออัญเชิญอำนาจคุณพระศรีรัตนศาสดาราม และสิ่งศักดิ์สิทธ์ในสากลโลกจงช่วยปกป้องคุ้มครอง ให้ท่านมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงตลอดไป.

13 สิงหาคม 2552

ประกาศจากกรมฯ

ประกาศกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ


เรื่อง ประกวดราคาซื้อวัสดุเครื่องบริโภคประเภทอาหารและข้าวสาร สำหรับเลี้ยงเด็กผู้รับการสงเคราะห์ใน
ความอุปการะของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง
…………………………
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า กรมพัฒนาสังคม
และสวัสดิการ มีความประสงค์จะประกวดราคา เพื่อจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคประเภทอาหารสด อาหารแห้ง และข้าวสารเจ้า ชนิด 10 % เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารเลี้ยงเด็กผู้รับการสงเคราะห์ ภายในหน่วยงาน
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ตามรายการดังนี้
1. ประเภทเนื้อสัตว์และไข่ จำนวน 33 รายการ
2. ประเภทของเค็ม จำนวน 14 รายการ
3. ประเภทผักและผลไม้ จำนวน 55 รายการ
4. ประเภทของแห้งและเครื่องปรุง จำนวน 42 รายการ
5. ประเภทของหวาน จำนวน 25 รายการ
6. ข้าวสารเจ้า ชนิด 10% จำนวน 1 รายการ
รวม 170 รายการ

ผู้มีสิทธิเสนอราคาจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้มีอาชีพขายพัสดุสิ่งของที่ประกวดราคาซื้อดังกล่าว ซึ่งมีผลงานประเภทเดียวกัน
ในวงเงินไม่น้อยกว่า 2,000,000 บาท ย้อนหลัง 3 ปี
2. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว
3. ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิหรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาล
ของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์ความคุ้มกันเช่นว่านั้น
4. ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่นที่เข้าเสนอราคาให้แก่กรมฯ ณ
วันประกาศประกวดราคา หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
ในการประกวดราคาซื้อครั้งนี้



กำหนดยื่นซองประกวดราคา ในวันที่ ....9 -15กันยายน 2552...........ระหว่างเวลา 09.00 น.
ถึง 10.30 น. ณ ห้องยื่นซองประกวดราคา ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคาในวันที่ .. 9 กันยายน 2552. ตั้งแต่ เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาในราคาชุดละ 300.- บาท (สามร้อยบาทถ้วน)
ได้ที่สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ตั้งอยู่เลขที่ 318 ถนนสุขุมวิท ตำบลห้วยโป่ง
อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ ..19 – 27 สิงหาคม 2552 ..... หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข
0 – 3868 – 4102 ในวันและเวลาราชการ

ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552



เอกสารประกวดราคาชื้อ เลขที่ 2 /2552
การชื้อวัสดุเครื่องบริโภคประเภทอาหารและข้าวสาร สำหรับเลี้ยงเด็กผู้รับการสงเคราะห์ในความอุปการะของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ตามประกาศของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2552
..................................................

สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ กรมพัฒนาสังคม
และสวัสดิการ “ มีความประสงค์จะประกวดราคา เพื่อจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคประเภทอาหารสด อาหารแห้ง และข้าวสารเจ้า ชนิด 10 % สำหรับเลี้ยงเด็กผู้รับการสงเคราะห์ ในความอุปการะในหน่วยงานสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ตามรายการดังต่อไปนี้

1. ประเภทเนื้อสัตว์และไข่ จำนวน 33 รายการ
2. ประเภทของเค็ม จำนวน 14 รายการ
3. ประเภทผักและผลไม้ จำนวน 55 รายการ
4. ประเภทของแห้งและเครื่องปรุง จำนวน 42 รายการ
5. ประเภทของหวาน จำนวน 25 รายการ
6. ข้าวสารเจ้า ชนิด 10% จำนวน 1 รายการ
รวม 170 รายการ

ซึ่งพัสดุสิ่งของที่จะซื้อนี้ต้องเป็นของแท้ ของใหม่ ไม่เคยใช้งานมาก่อน ไม่เป็นของเก่าเก็บ อยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้ทันที และมีคุณลักษณะเฉพาะตรงตามที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาฉบับนี้ โดยมีข้อแนะนำและข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
1. เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคา
1.1 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
1.2 แบบใบเสนอราคา
1.3 แบบสัญญาจะซื้อจะขาย
1.4 แบบหนังสือค้ำประกัน
(1) หลักประกันซอง
(2) หลักประกันสัญญา

1.5 บทนิยาม
(1) ผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
(2) การขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
1.6 แบบบัญชีเอกสาร
(1) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1
(2) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2
2. คุณสมบัติของผู้เสนอราคา
2.1 ผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพขายพัสดุสิ่งของที่ประกวดราคาซื้อ ซึ่งมีผลงานย้อนหลัง 3 ปี
2.2 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของราชการและได้แจ้ง
เวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับผลของการสั่งให้นิติบุคคล หรือบุคคลอื่นเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
2.3 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศ
ประกวดราคาหรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ 1.5
2.4 ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ได้รับเ อกสิทธิหรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาล
ไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิและความคุ้มกันเช่นว่านั้น
2.5 ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาซื้อในวงเงินไม่น้อยกว่า
2,000,000 บาท และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ
บริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานเอกชนที่กรมฯ เชื่อถือ
3. หลักฐานการเสนอราคา
ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับซองใบเสนอราคา โดยแยกไว้
นอกซองใบเสนอราคาเป็น 2 ส่วน คือ
3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นนิติบุคคล
(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรอง
การจดทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
(ข) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการ จดทะเบียนนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุมและบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
(2) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นบุคคลธรรมดา หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(3) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นผู้เสนอราคาร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้าสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล ให้ยื่นเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (1)
(4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา ตามแบบในข้อ 1.6 (1)
3.2 ส่วนที่ 2 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) แคตตาล็อกและหรือแบบรูปรายการละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ตามข้อ 4.4
(2) หนังสือมอบอำนาจซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้เสนอราคามอบอำนาจให้บุคคลอื่นลงนามในใบเสนอราคาแทน
(3) หลักประกันซองตามข้อ 5
(4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา ตามแบบในข้อ 1.6 (2)
4. การเสนอราคา
4.1 ผู้เสนอราคาต้องยื่นเสนอราคาตามแบบที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคานี้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอกข้อความให้ครบถ้วน ลงลายมือชื่อของผู้เสนอราคาให้ชัดเจนจำนวนเงินที่เสนอต้องระบุตรงกันทั้งตัวเลขและตัวอักษร โดยไม่มีการขูดลบหรือแก้ไข หากมีการขูดลบ ตกเติมแก้ไขเปลี่ยนแปลง จะต้องลงลายมือชื่อผู้เสนอราคาพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้ด้วยทุกแห่ง
4.2 ผู้เสนอราคาต้องเสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียว โดยเสนอราคารวมหรือราคาต่อหน่วย และหรือต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง ทั้งนี้ราคารวมที่เสนอจะต้องตรงกันทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ตรงกัน ให้ถือตัวหนังสือเป็นสำคัญ โดยคิดราคาทั้งสิ้นซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวง จนกระทั้งส่งมอบพัสดุสิ่งของให้ ณ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง
ราคาที่เสนอ จะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันเปิดซองใบเสนอราคา โดยภายในกำหนดยืนราคาผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้
4.3 ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอกำหนดเวลาส่งมอบพัสดุสิ่งของทุกวัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย
4.4 ผู้เสนอราคาจะต้องส่งตัวอย่างของข้าวสารเจ้า ชนิด 10 % ไปพร้อมใบเสนอราคา เพื่อใช้ในการตรวจทดลองหรือประกอบการพิจารณาและหรือประกอบสัญญา ทั้งนี้ จังหวัดจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ตัวอย่างดังกล่าว ตัวอย่างที่เหลือหรือไม่ใช้แล้ว จังหวัดจะคืนให้แก่ผู้เสนอราคา
4.5 ก่อนยื่นซองประกวดราคา ผู้เสนอราคาควรตรวจดูร่างสัญญา รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ฯลฯ ให้ถี่ถ้วนและเข้าใจเอกสารประกวดราคาทั้งหมดเสียก่อนที่จะตกลงยื่นซองประกวดราคาตามเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคา
4.6 ผู้เสนอราคาจะต้องยื่นซองใบเสนอราคาที่เปิดผนึกซองเรียบร้อย จ่าหน้าซองถึงคณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคา โดยระบุไว้หน้าซองว่า “ใบเสนอราคาตามเอกสารประกวดราคา เลขที่ 2 / 2552” ยื่นต่อคณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคา ในวันที่ ..9... กันยายน 2552................ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึง 10.30 น. ณ ห้องยื่นซองประกวดราคา ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
เมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นซองประกวดราคาแล้วจะไม่รับซองประกวดราคาโดยเด็ดขาด
คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาแต่ละรายว่า เป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่นตามข้อ 1.5 (1) ณ วันประกาศประกวดราคาหรือไม่ และประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกก่อนการเปิดซองใบเสนอราคา


หากปรากฏต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาก่อน หรือในขณะที่มีการเปิดซองใบเสนอราคาว่า มีผู้เสนอราคากระทำการเป็นอันขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมตามข้อ 1.5 (2) และคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการฯ จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคารายนั้นออกจากการเป็นผู้เสนอราคา และประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือก และกรมจะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคาดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงาน เว้นแต่คณะกรรมการฯ จะวินิจฉัยได้ว่าผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของทางราชการ และมิได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการกระทำดังกล่าว
ผู้เสนอราคาที่ถูกตัดรายชื่อออกจากการเป็นผู้เสนอราคา เพราะเหตุเป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศประกวดราคา หรือเป็นผู้เสนอราคาที่กระทำการ
อันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อาจอุธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อปลัดกระทรวงภายใน 3 วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา การวินิจฉัยอุธรณ์ของปลัดกระทรวง
ให้ถือเป็นที่สุด
คณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคาจะเปิดซองใบเสนอราคาของผู้เสนอราคาที่มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวข้างต้น ณ ห้องยื่นซองประกวดราคา ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในวันที่ ...9.. กันยายน 2552.....ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป

การยื่นอุธรณ์ตามวรรค 5 ย่อมไม่เป็นเหตุให้มีการขยายระยะเวลาการเปิดซองใบเสนอราคาเว้นแต่ปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นว่า การขยายระยะเวลาดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างยิ่งและในกรณีที่ปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นด้วยกับการคัดค้านของผู้อุทธรณ์ และเห็นว่าการยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อทางราชการอย่างยิ่งให้ปลัดกระทรวงมีอำนาจยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาดังกล่าวได้

5. หลักประกันซอง
ผู้เสนอราคาต้องวางหลักประกันซองพร้อมกับการยื่นซองประกวดราคา โดยใช้หลักประกัน
อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ จำนวน ...291,000 บาท ( สองแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน )............................

5.1 เงินสด
5.2 เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่ กรม โดยเป็นเช็คลงวันที่ที่ยื่นซองประกวดราคา หรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน 3 วันทำการของทางราชการ
5.3 หนังสือค้ำประกันของธนาคารในประเทศตามแบบหนังสือค้ำประกันดังระบุในข้อ1.4 (1)
5.4 หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ และประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้แจ้งชื่อเวียนให้ส่วนราชการต่างๆ ทราบแล้ว โดยอนุโลมให้ใช้ตามแบบหนังสือค้ำประกันดังระบุในข้อ 1.4 (1)
5.5 พันธบัตรรัฐบาลไทย
หลักประกันซองตามข้อนี้ กรมจะคืนให้ผู้เสนอราคาหรือผู้ค้ำประกันภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับพิจารณาในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่ผู้เสนอราคารายที่คัดเลือกไว้ ซึ่งเสนอ
ราคาต่ำสุดไม่เกิน 3 ราย จะคืนให้ต่อเมื่อได้ทำสัญญาหรือข้อตกลง หรือเมื่อผู้เสนอราคาได้พ้นจากข้อผูกพันแล้ว
การคืนหลักประกันซอง ไม่ว่าในกรณีใดๆ จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย

6. หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณาราคา
6.1 ในการประกวดราคาครั้งนี้ กรมจะพิจารณาตัดสินด้วยราคารวมกันทั้งอาหารและข้าวสาร
6.1.1 ผู้เสนอราคาต้องเสนอราคาอาหารแต่ละรายการอย่างชัดเจน แล้วรวมยอดเงิน
ที่เสนอแต่ละประเภท โดยแสดงตัวเลขและตัวหนังสือที่ถูกต้องตรงกัน
6.1.2 ผู้เสนอราคาต้องเสนอราคาอาหารแต่ละรายการไม่สูงกว่าราคากลางและมีราคา
รวมต่ำสุดจึงจะเป็นผู้เสนอราคาได้
6.1.3 หากมีผู้เสนอราคารวมเท่ากันหลายรายให้ทุกรายยื่นซองเสนอราคาใหม่จนกว่า
จะได้ผู้เสนอราคาต่ำสุด
6.1.4 หากได้ผู้ชนะการประมูลจากการเสนอราคาตามข้อ 6.1.3 ให้ผู้เสนอราคาปรับราคาแต่ละรายการให้เท่ากับราคารวมที่เสนอก่อนทำสัญญา

6.2 หากผู้เสนอราคารายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามข้อ 2 หรือยื่นหลักฐานการเสนอราคาไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนตามข้อ 3 หรือยื่นซองประกวดราคาไม่ถูกต้องตามข้อ 4 แล้ว คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจะไม่รับพิจารณาราคาของผู้เสนอราคารายนั้น เว้นแต่เป็นข้อผิดพลาด หรือผิดหลงเพียงเล็กน้อย หรือผิดพลาดไปจากเงื่อนไขของเอกสารประกวดราคาในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ทั้งนี้เฉพาะในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดเท่านั้น
6.3 กรมสงวนสิทธิไม่พิจารณาราคาของผู้เสนอราคา โดยไม่มีการผ่อนผันในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ไม่ปรากฏชื่อผู้เสนอราคารายนั้น ในบัญชีผู้รับเอกสารประกวดราคา หรือในหลักฐานการรับเอกสารประกวดราคาของจังหวัด
(2) ไม่กรอกชื่อนิติบุคคล (บุคคลธรรมดา) หรือลงลายมือชื่อผู้เสนอราคาอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทั้งหมดในใบเสนอราคา
(3) เสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคา ที่เป็นสาระสำคัญ หรือมีผลทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแก่ผู้เสนอราคารายอื่น
(4) ราคาที่เสนอมีการขูดลบ ตก เติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง โดยผู้เสนอราคามิได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้
6.4 ในการตัดสินการประกวดราคาหรือในการทำสัญญา คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาหรือกรมมีสิทธิให้ผู้เสนอราคาชี้แจงข้อเท็จจริง สภาพ ฐานะ หรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่ เกี่ยวข้องกับผู้เสนอราคาได้ กรมมีสิทธิที่จะไม่รับราคาหรือไม่ทำสัญญา หากหลักฐานดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง
6.5 กรมทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับราคาต่ำสุด หรือราคาหนึ่งราคาใดหรือราคาที่เสนอทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาเลือกซื้อในจำนวน หรือขนาด หรือเฉพาะรายการหนึ่งรายการใดหรืออาจจะยกเลิกการประกวดราคาโดยไม่พิจารณาจัดซื้อเลยก็ได้ สุดแต่จะพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และให้ถือว่าการตัดสินของกรมเป็นเด็ดขาด ผู้เสนอราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ มิได้รวมทั้งกรม
จะพิจารณายกเลิกการประกวดราคาและลงโทษผู้เสนอราคาเป็นผู้ทิ้งงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้เสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกหรือไม่ก็ตาม หากมีเหตุที่เชื่อได้ว่าการเสนอราคากระทำการโดยไม่สุจริต เช่น การเสนอราคาอันเป็นเท็จ หรือ ใช้ชื่อบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นมาเสนอราคาแทน เป็นต้น


6.6 ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังจากการเปิดซองประกวดราคาว่า ผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกตามที่ได้ประกาศรายชื่อไว้ ตามข้อ 4.6 เป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศประกวดราคา หรือเป็นผู้เสนอราคาที่กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมตามข้อ 1.5 กรมมีอำนาจที่ตัดรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกดังกล่าวออกจากประกาศรายชื่อตามข้อ 4.6 และกรมจะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ทิ้งงาน
ในกรณีนี้หากปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นว่า การยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง ปลัดกระทรวงมีอำนาจยกเลิกการเปิกซองใบเสนอราคาดังกล่าวได้
7. การทำสัญญาจะซื้อจะขาย
7.1 ในกรณีที่ผู้ชนะการประกวดราคาสามารถส่งมอบสิ่งของได้ครบถ้วนภายใน 5 วันทำการ ของทางราชการ นับแต่วันที่ทำข้อตกลงซื้อ กรมจะพิจารณาจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือแทนการทำสัญญาตามแบบสัญญาดังระบุในข้อ 1.3 ก็ได้
7.2 ในกรณีที่ผู้ชนะการประกวดราคาไม่สามรถส่งมอบสิ่งของได้ครบถ้วนภายใน
5 วันทำการของทางราชการ หรือกรมเห็นว่าไม่สมควรจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือ ตามข้อ 7.1 ผู้ชนะการประกวดราคาจะต้องทำสัญญาซื้อขายตามแบบสัญญาดังระบุในข้อ 1.3 กับกรมภายใน 5 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งและจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละ 5 ของราคาสิ่งของที่ประกวดราคาได้ให้กรมยึดถือไว้ในขณะทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(1) เงินสด
(2) เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่กรม โดยเป็นเช็คลงวันที่ที่ทำสัญญาหรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน 3 วันทำการของทางราชการ
(3) หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศตามแบบหนังสือค้ำประกันดังระบุในข้อ 1.4 (2)

(4) หนังสือค้ำประกันของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์ และประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งงประเทศไทย ซึ่งได้แจ้งชื่อเวียนให้ส่วนราชการต่างๆ ทราบแล้ว โดยอนุโลมให้ใช้ตามแบบหนังสือค้ำประกันดังระบุในข้อ 1.4 (2)
(5) พันธบัตรรัฐบาลไทย
หลักประกันนี้จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่ ผู้ชนะการประกวดราคา (ผู้ขาย) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาซื้อขายแล้ว
8. อัตราค่าปรับ
ค่าปรับตามแบบสัญญาจะซื้อจะขายข้อ 11 ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.20 ของราคาพัสดุสิ่งของที่ไม่ได้รับมอบต่อวัน
9. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง
ผู้ชนะการประกวดราคาซึ่งได้รับข้อตกลงเป็นสัญญาจะซื้อจะขายแบบราคาคงที่ไม่จำกัด ปริมาณในข้อ 1.3 จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของวัสดุสิ่งของที่ซื้อขายที่ใช้ประกอบอาหารได้ ไม่บูด ไม่เน่า ไม่เก่าเก็บและเสียหาย
10. ข้อสงวนสิทธิในการเสนอราคาและอื่นๆ
10.1 เงินที่จะซื้ออาหาร และข้าวสาร สำหรับการประกวดราคาครั้งนี้ได้มาจากเงินงบประมาณประจำปี 2553
การลงนามในสัญญาจะกระทำได้ต่อเมื่อ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ได้รับอนุมัติงบประมาณประจำปี 2553 แล้ว เท่านั้น

10.2 เมื่อกรมได้คัดเลือกผู้เสนอราคารายใดให้เป็นผู้ขายและได้ตกลงซื้อสิ่งของตามประกวดราคาซื้อแล้ว ถ้าผู้ขายจะต้องสั่งหรือนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศและของนั้นต้องนำเข้า
มาทางเรือในเส้นทางที่มีเรือไทยเดินอยู่ และสามารถให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้เสนอราคาซึ่งเป็นผู้ขายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการ ส่งเสริมการพาณิชย์นาวี ดังนี้

(1) แจ้งการสั่งหรือนำสิ่งของที่ซื้อขายดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ขายสั่งหรือซื้อของจากต่างประเทศเว้นแต่เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้
(2) จัดการให้สิ่งของที่ซื้อขายดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยจากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีให้บรรทุกสิ่งของนั้นโดยเรืออื่นที่มิใช่เรือไทย ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตเช่นนั้นก่อนบรรทุกของ ลงเรืออื่น หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่น
(3) ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม (1) หรือ (2) ผู้ขายจะต้องรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชย์นาวี
10.3 ผู้เสนอราคาซึ่งกรมได้คัดเลือกแล้วไม่ไปทำสัญญา หรือข้อตกลงภายในเวลาที่ทางราชการกำหนด ดังระบุไว้ในข้อ 7 กรมจะริบหลักประกันซอง หรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกันซองทันที หรืออาจพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
10.4 กรมสงวนสิทธิที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไข หรือข้อกำหนดในแบบสัญญาให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด (ถ้ามี )


กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

11 สิงหาคม 2552

วันแม่ปี52




ความหมาย
พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ ได้ให้ความหมายของคำว่า "แม่" ไว้ดังนี้
แม่ หมายถึง หญิงในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูก, คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน พุทธศาสนา ได้ให้ความหมายของคำว่า "แม่" ซึ่งหมายถึง หญิงที่มีครอบครัวไว้หลายนัย เช่น

๑) แม่ บางทีเรียกว่า มารดา มารดร หมายถึง เป็นใหญ่ เช่น แม่ทัพ แม่น้ำ แม่กอง เป็นต้น อันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ภายในกิจการนั้นๆ ในที่นี้มาใช้กับผู้ให้กำเนิดแก่ลูกและหาตัวแทนไม่ได้
- หญิงในฐานะผู้ให้กำเนิดแก่ลูก และหาตัวแทนไม่ได้
- คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน
- คนที่เป็นหัวหน้า หรือเป็นนาย โดยไม่จำกัดว่าเป็นชายหรือหญิง เช่น แม่ทัพ แม่กอง ฯลฯ
รวมความแล้ว "แม่" คือ ผู้รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน โดยการรับผิดชอบนั้นมีขอบเขตภายในบ้านเรือน
๒) ชนนี หมายถึง ผู้ให้กำเนิดลูก, เป็นที่บังเกิดเกล้าของลูก
๓) ภรรยา หรือภริยา หมายถึง
- เมีย หรือ หญิงผู้เป็นคู่ครองของชาย
- ผู้เลี้ยง หรือผู้ดูแลสมาชิกของครอบครัว

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติ
วันแม่แห่งชาติหรือที่คนไทยทั่วไปนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า "วันแม่" ทุกคนรับทราบและ ซาบซึ้งกันดี เนื่องจากวันสำคัญนี้ ตรงกับวัน เฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือวันที่ ๑๒ สิงหาคม อันเป็นวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพและถือว่าเป็นวันแม่แห่งชาติด้วยแต่เดิมนั้น วันแม่ของชาติได้กำหนดเอาวันที่ ๑๕ เมษายน ของทุกๆ ปีทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี ประกาศรับรอง เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๓ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงานวันแม่มาตั้งแต่วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นครั้งแรกเป็นต้นมานั้นได้รับความสำเร็จด้วยดีด้วยประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงาน ให้กว้างออกไปได้ การจัดงานไม่เพียงแต่จัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังจัดให้มีการประกวดแม่ของชาติ ประกวดคำขัวญวันแม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกียรติแก่แม่ และเพื่อเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้ยิ่ง ๆ ขึ้น ด้วยเหตุนี้งานวันแม่จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม (สมัยนั้น) แต่ทั่วไปเรียกกันว่า วันแม่ของชาติ
ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ ๑๒ สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นต้นมา จากหนังสือของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อแม่หลวงของปวงชน พิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ มีข้อความตอนหนึ่งเทิดพรเกียรติไว้ว่า
"แม่ที่ดีย่อมรู้จักส่งเสริมธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เพราะแม่ทราบดีว่าถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้ว ความเป็นไทยที่แท้จริงจะมิปรากฏอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
แม่ที่ดีย่อมประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบของการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยรักเคารพและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใด หญิงไทยทุกคน ย่อมจะมีคุณลักษณะต่างๆ ของแม่ที่ดีดังกล่าวข้างต้นนี้อยู่แล้วจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการศึกษาและการฝึกหัดอบรม แต่จะหาหญิงใดที่มีคุณลักษณะครบถ้วนทุกประการเสมอเหมือน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นั้นไม่ง่ายนัก ด้วยเหตุนี้เราจึงขอเทิดทูนพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ ว่าทรงเป็นแม่หลวงของปวงชน ผู้ทรงเป็นศรีสง่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของบ้านเมืองและของปวงชนชาวไทยทั้งมวล"ดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของวันแม่ของชาติตามเหตุผลของทางราชการ
ส่วนที่เกี่ยวกับวันแม่ของไทยตามความรู้สึกนึกคิดทั่วไปของคนไทยผู้เป็นแม่ คำว่า แม่ นี้เป็นคำที่ซาบซึ้ง ไม่มีการกำหนด วัน เวลา แต่มีความหมายลึกซึ้งกินใจของผู้เป็นแม่และลูกมานานแล้ว ดังสำนวนไทยประโยคหนึ่งว่า "แม่ใครมาน้ำตาใครไหล" ซึ่งพระวรเวทย์พิสิฐได้อธิบายไว้ในหนังสือวรรณกรรมเรื่อง "แม่" ว่า "เด็กไทยตามหมู่บ้านในสมัยที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กมักเล่นกันเป็นหมู่ๆ เด็กคนไหนแม่อยู่บ้าน เวลาเขาเล่นอยู่ในหมู่เพื่อนหน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กคนไหนที่แม่ไม่อยู่บ้าน ต่างว่าไปทำมาหากินไกลๆ หรือ ไปธุระที่ไหนนานๆ ก็มีหน้าตาเหงาหงอย ถึงจะเล่นสนุกสนานไปกับเพื่อนในเวลานั้นก็พลอยสนุกไปแกนๆ จนเด็กเพื่อนๆ กันรู้กิริยาอาการ เพราะฉะนั้น พอเด็กๆ เพื่อนๆ แลเห็นแม่เดินกลับมาแต่ไกล ก็พากันร้องขึ้นว่า แม่ใครมาน้ำตาใครไหล แล้วเด็กคนนั้นผละจากเพื่อนเล่นวิ่งไปหาแม่ กอดแม่ น้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความปลื้มปิติ แล้วจึงหัวเราะออก ลักษณะอาการที่เด็กแสดงออกมาจากน้ำใจอันแท้จริงอย่างนี้ ย่อมเกิดจากความสนิทสนม ชิดเชื้อมีเยื่อใยต่อกัน แม่ไปไหนจากบ้านก็คิดถึงลูกและลูกก็เปล่าเปลี่ยวใจเมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน นี่คือธรรมชาติ ไม่มีใครสร้างสรรค์บันดาล มันเกิดขึ้นเอง"และอีกตอนหนึ่งในหนังสือเล่มเดิมที่อ้างข้างต้นให้ความหมายของคำว่า "แม่" ว่า "เสียงที่เปล่งออกมาจากปาก เป็นคำที่มีความหมายว่า แม่ เป็นเสียงและความหมายที่ลึกซึ้งใจมีรสเมตตาคุณ กรุณาคุณและความรักอยู่ในคำนี้บริบูรณ์ เด็กน้อยที่เหลียวหาแม่ไม่เห็นก็ส่งเสียงตะโกนเรียก แม่ แม่ ถ้าไม่เห็นก็ร้องไห้จ้า ถ้าเห็๋นแม่มาก็หัวเราะได้ทั้งน้ำตา นี่เพราะอะไร เราเดาใจเด็กว่า เมื่อไม่เห็นแม่เด็กต้องรู้สึกใจหายดูเหมือนเขาจะรู้สึกว่าขาดผู้ที่ปกปักรักษาให้ปลอดภัย แต่พอเห็นแม่เข้าเท่านั้นก็อุ่นใจ ไม่กลัวเกรงอะไรทั้งหมดเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว เมื่อเอ่ยคำว่าแม่ขึ้นทีไร ก็มักจะรู้สึกเกินออกไปจากความหมายที่เป็นชื่อเท่านั้น ย่อมนึกถึงความสัมพันธ์ที่แม่มีต่อเราเกือบทุกครั้ง แม่รักลูกถนอมลูก หวังดีต่อลูก จะไปไหนจากบ้านก็เป็นห่วงลูก ถึงกับแบ่งของรับประทานนั้นไว้ให้ลูก ลักษณะเหล่านี้ย่อมตรึงใจเรามิวาย"อย่างไรก็ตาม การที่ทางราชการประกาศกำหนดวันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันแม่แห่งชาติ ย่อมก่อให้เกิดวันอันเป็นที่ระลึกที่สำคัญยิ่งของไทยเราวันหนึ่ง และกำหนดให้ถือว่า ดอกมะลิ สีขาวบริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงามของแม่ผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา อย่างคำประพันธ์บทดอกสร้อยชื่อ แม่จ๋า ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ที่ว่า

ดอกเอ๋ยดอกมะลิ
ถึงยามผลิกลิ่นพราวสกาวต้น
สดสะอาดปราศสีราคีระคน
เหมือนกมลใสสดหมดระคาย
กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง
เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย
อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย
ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง

31 กรกฎาคม 2552

รวมพลคนใจดี




วันนี้สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ต้องขอสวัสดีทักทาย พี่ๆที่ใจดี มาทำกิจกรรมกับพวกเรา
ทำให้เรารู้สึกมีความสุข หากถามหาความหมายของ คำว่า " ความสุข"
คนที่มีความสุขที่สุดในโลกไม่ใช่คนที่ร่ำรวย
คนที่มีความสุขที่สุดในโลกไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ
แต่คนที่มีความสุขที่สุดในโลกคือ คนที่มีความสบายใจเท่านั้นเอง

และความหมายของความสบายใจ คือ

หนึ่ง เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เชื่อว่าคุณมีดี คุณน่าคบหา และคุณทำได้

สอง รู้จักตัวเอง ยอมรับในข้อบกพร่องของตัวเอง และพร้อมจะปรับปรุงเสมอ

สาม ไม่ดื้อดึง ถ้าวันวานคุณเคยทำผิดพลาด คุณก็ยินยอมเปลี่ยนแปลงและรับฟังคนอื่น

สี่ เห็นค่าของตัวเอง คุณไม่คิดว่าตัวเองช่างไร้ค่า คุณจึงมีความสุขในใจเสมอ

ห้า วิ่งหนีความทุกข์ เมื่อรู้ตัวว่าตกลงไปในความทุกข์ คุณก็รีบหาทางหลุดพ้น ไม่จมอยู่กับมัน

หก กล้าหาญเสมอ คุณกล้าเปลี่ยนแปลงและกล้ารับมือกับสิ่งแปลกใหม่หรือปัญหาต่างๆ

เจ็ด มีความฝันใฝ่ เมื่อชีวิตมีจุดหมาย คุณก็จะเดินไปบนถนนชีวิตอย่างมีความหวัง ไม่เลื่อนลอย

แปด มีน้ำใจอาทร คุณพบความสุขในใจเสมอถ้าเป็นผู้ให้แก่ผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

เก้า นับถือตัวเอง ไม่ดูถูกตัวเองด้วยการลดคุณค่าและทำในสิ่งที่เสื่อมเสียต่อตัวเอง

สิบ เติมสีสัน สร้างรอยยิ้มให้ชีวิตของคุณและคนรอบข้าง รู้จักหยอกล้อคนอื่น ๆ และตัวเองด้วย

ความสุขนั้นคือพอใจกับวิถีชีวิตของตัวเอง และวางฝันของตัวเองตามกำลังที่ตนทำได้ การได้รับวัตถุและความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำให้คุณพึงพอใจและยกระดับฐานะของคุณเท่านั้น เป็นการสร้างเสริมความสุขเพียงภายนอก และมันมิได้อยู่กับคุณอย่างมั่นคงถาวรตลอดไป

เพราะคนเรานั้นย่อมมีความต้องการเพิ่มขึ้นเสมอไม่มีวันหยุดนิ่ง

ความสุขที่แท้จริงเกิดจากข้างในจิตใจของคนเรา และถ้าจิตใจของคุณไม่ว่าง เต็มไปด้วยอารมณ์อันตรายต่าง ๆ ความสุขก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง เพราะความสุขนั้นมักเกิดขึ้นท่ามกลางความสงบเสมอ

ชีวิตของคนเรานั้นไม่ยืนยาวนัก คุณสามารถหาความสุขให้ตัวเองได้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมุ่งหวังยามแก่เฒ่า ค่อยอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่หลายคนเชื่อกัน เชื่อเถอะ เราจะสามารถมีความสุขที่สุดในโลกได้ ในตอนนี้ ถ้าเราเริ่มจากตัวเราเอง !!!

* จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว * เมื่อจิตมีสุข กายย่อมสุขด้วย แม้ยามเจ็บป่วยเมื่อใจเป็นสุขย่อมหายโดยไว
ทางสถานคุ้มสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสครั้งต่อไป คงได้รับโอกาสในการต้อนรับทุกท่านอีกนะครับ

13 กรกฎาคม 2552

วงดนตรี สายพันธุ์ใหม่ New Root




สวัสดีครับ วันนี้ขอนำท่าน ชมโฉมหน้าวง New Root ซึ่งเป็นวงดนตรีประจำสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง ที่ก่อสร้างความฝัน รวมกันเป็นชื่อในนาม New Root

ดนตรีเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มาพร้อม ๆ กับชีวิตมนุษย์โดยที่มนุษย์เองไม่รู้ตัว ดนตรีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้มนุษย์มีความสุข สนุกสนานรื่นเริง ช่วยผ่อนคลายความเครียดทั้งทางตรงและทางอ้อม ดนตรีเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจของมนุษย์ให้มีความเบิกบานหรรษาให้เกิดความสงบและพักผ่อน กล่าวคือในการดำรงชีพของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายดนตรีมีความเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจสืบเนื่องมาจากความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ โดยตรงหรืออาจเกิดจากขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ เช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงประกอบในการทำงาน เพลงที่เกี่ยวข้องในงานพิธีการ เพลงสวดถึงพระผู้เป็นเจ้า เป็นต้น

ดนตรีเป็นศิลปะที่อาศัยเสียงเพื่อเป็นสื่อในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ไปสู่ ผู้ฟังเป็นศิลปะที่ง่ายต่อการสัมผัส ก่อให้เกิดความสุข ความปลื้มปิติพึงพอใจให้แก่มนุษย์ได้ นอกจากนี้ได้มีนักปราชญ์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ดนตรีเป็นภาษาสากลของมนุษยชาติ เกิดขึ้นจากธรรมชาติและมนุษย์ได้นำมาดัดแปลงแก้ไขให้ประณีตงดงามไพเราะเมื่อฟังดนตรีแล้วทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ” นั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราได้ทราบว่ามนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดภาษาใดก็สามารถรับรู้อรรถรสของดนตรีได้โดยใช้เสียงเป็นสื่อได้เหมือนกัน

มีบุคคลจำนวนไม่น้อยที่ตั้งคำถามว่า “ดนตรีคืออะไร” แล้ว “ทำไมต้องมีดนตรี” คำว่า “ดนตรี” ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายไว้ว่า “เสียงที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลง เครื่องบรรเลงซึ่งมีเสียงดังทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน หรือเกิดอารมณ์รัก โศกหรือรื่นเริง” จากความหมายข้างต้นจึงทำให้เราได้ทราบคำตอบที่ว่าทำไมต้องมีดนตรีก็เพราะว่าดนตรีช่วยทำให้มนุษย์เรารู้สึกเพลิดเพลินได้

คำว่า “ดนตรี” มีความหมายที่กว้างและหลากหลายมากนอกจากนี้ยังมีการนำดนตรีไปใช้ประกอบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยเช่น การใช้ประกอบในภาพยนต์ เนื่องจากดนตรีนั้นสามารถนำไปเป็นพื้นฐานในการสร้างอารมณ์ลักษณะต่าง ๆ ของแต่ละฉากได้ พิธีกรรมทางศาสนาก็มีการนำดนตรีเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยจึงทำให้มีความขลัง ความน่าเชื่อถือ ความศรัทธา มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ดนตรีบางประเภทถูกนำไปใช้ในการเผยแพร่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกลุ่มคนหรือเชื้อชาติ บางครั้งมนุษย์เราใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการแยกประเภทของมนุษย์ออกเป็นกลุ่ม ๆ เช่น วัยรุ่นในเมืองก็จะชอบฟังเพลงที่มีจังหวะหรือทำนองสนุก ๆ ครื้นเครงความรักหวานซึ้งส่วนวัยรุ่นที่อยู่ในชนบทก็มักจะชอบฟังประเภทเพลงเพื่อชีวิต เพลงลูกทุ่ง วัยหนุ่มสาวก็ชอบเพลงทำนองอ่อนหวานที่เกี่ยวกับความรัก สำหรับผู้ใหญ่ก็มักจะชอบฟังเพลงที่มีจังหวะหรือทำนองที่ฟังสบาย ๆ และชอบฟังเพลงที่คุ้นเคย

มนุษย์เราใช้ดนตรีเป็นเครื่องกระตุ้นในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการขับรถ การเรียน การวิ่งเหยาะ ๆ ออกกำลังกาย เป็นต้น ที่กล่าวมาข้างต้นการใช้ดนตรีเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือใช้ดนตรีเป็นส่วนประกอบในการทำร่วมกับกิจกรรมนั้น ๆส่วนจุดมุ่งหมายอื่นๆเป็นเรื่องรองลงมา

ก่อนที่จะมาเป็นดนตรีให้เราได้ยินได้ฟังกันจนกระทั่งปัจจุบันนี้มนุษย์ได้คิด ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาแล้วไม่น้อยกว่าพันปีดังนั้นดนตรีจึงถือได้เป็นสิ่งที่มีมาคู่กับมนุษย์เลยก็ว่าได้

มีดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งแตกต่างจากที่ได้กล่าวมาแล้วซึ่งต้องใช้สติปัญญาสมาธิ ความตั้งใจในการฟังดนตรีชนิดนี้เรียกว่า “ดนตรีคลาสสิก” (Classical Music) ส่วนใหญ่มนุษย์ฟังดนตรีประเภทนี้ฟังเพราะความพอใจและความรู้สึกสนุกสนานในการฟังไม่มีเหตุผลหรือจุดมุ่งหมายใด ๆ

มนุษย์จำนวนมากไม่เข้าใจว่าดนตรีสำคัญอย่างไร ดนตรีจะมีค่าได้อย่างไรในเมื่อเราไม่สามารถใช้มันเพื่อทำอะไรได้เลยเพราะดนตรีเป็นการสื่อในลักษณะของนามธรรม โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เราเข้าใจว่าสิ่งของส่วนใหญ่สำคัญเพราะเราจำเป็นต้องใช้มันในลักษณะของรูปธรรม แต่สำหรับดนตรีและงานศิลป์อื่น ๆ เช่น ภาพเขียน รูปปั้น ประติมากรรม บทกวี วรรณคดี ฯลฯ มีเพียงกลุ่มคนที่สนใจจริง ๆ เท่านั้นที่จะเข้าใจและซาบซึ้ง เพราะความสำคัญของสิ่งเหล่านั้นเป็นไปในแง่ของจิตวิทยา ไม่ใช่ในแง่ของการปฏิบัติ

เพราะเหตุใดมนุษย์เราจึงต้องสร้างสิ่งดังกล่าวขึ้นมาซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น การประเมินคุณค่าจำเป็นต้องใช้สติปัญญาและความพอใจของคนคนนั้นจึงจะรู้คุณค่า นอกจากนี้ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าความพอใจมีมาตรฐานของการวัดอย่างไร ถึงแม้ว่าจะมีทฤษฎีที่น่าสนใจมากมายสำหรับศึกษาเปรียบเทียบ อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนที่สุดคือ การแสดงออกเหล่านี้เป็นสิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสัตว์ เพราะสัตว์ไม่มีดนตรี ไม่มีความงามทางศิลป์ ฯลฯ

นอกจากนี้แล้วมนุษย์ยังแตกต่างจากสัตว์ตรงคำว่า “การดำรงอยู่” (Exist) และ “การดำรงชีวิต” (Live) มนุษย์เราไม่ต้องการเพียงแต่เพื่อดำรงชีวิตอยู่เท่านั้น แต่มนุษย์เรายังมีความต้องการสิ่งอื่น ๆ เช่น อยากรวยมากขึ้น อยากมีรถหรู ๆ ขับ อยากมีบ้านสวย ๆ อยู่ อยากมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามสัตว์ไม่ได้มีความต้องการอยากจะได้เช่นเดียวกับมนุษย์

ท่านสามารถ เยี่ยมชมสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง เพื่อให้กำลังใจกับเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติของเราในอนาคต ได้


ดังคำพูดที่ว่า " เครือข่ายความดี ทุกทิศทั่วไทย ความสุข ความดี และปฏิเกิดขึ้นทุกวันที่นี่ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง "

มาครับ...เรามาร่วมด้วยช่วยกัน...สร้างคน...สร้างชาติ...ของเรากัน..

10 กรกฎาคม 2552

รวมพลคนรักษ์โลก/สวนสมเด็จพระเทพ



สวัสดีครับ วันนี้ทางสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยองได้มีโอกาสได้ต้อนรับ พี่ๆจากบริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล๊อค จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด(ระยอง)ได้มาทำกิจกรรม การรักษาสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาภาวะโลกร้อนในชื่อกิจกรรมที่ชื่อว่า โครงการ SIG พี่ให้น้อง ครั้งที่ 1

ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จาก อุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก ครับ (Greenhouse gases)

ปรากฏการณ์เรือนกระจก มีความสำคัญกับโลก เพราะก๊าซจำพวก คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด (และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์) ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ครับ



แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ CO2 ที่ออกมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือการกระทำใดๆที่เผา เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ) ส่งผลให้ระดับปริมาณ CO2 ในปัจจุบันสูงเกิน 300 ppm (300 ส่วน ใน ล้านส่วน) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 แสนปี

ซึ่ง คาร์บอนไดออกไซด์ ที่มากขึ้นนี้ ได้เพิ่มการกักเก็บความร้อนไว้ในโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็น ภาวะโลกร้อน ดังเช่นปัจจุบัน

ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง

กิจกรรมในนี้เราได้ทั้งความสนุกและความรู้ ขอบคุณไปยัง บริษัท เอส ไอ จี เป็นอย่างสูง ที่มอบกิจกรรมดีแบบนี้ให้กับเรา โอกาสหน้าเราหวังว่า คงได้มีโอกาสได้ต้อนรับต่อไปครับ



กิจกรรมทัศนศึกษาที่สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ

ในช่วงบ่าย คณะเจ้าหน้าที่ คณะครู และนักเรียนทุกระดับชั้นได้มีโอกาสเข้าร่วมชมศึกษาหาความรู้ เรีองสมุนไพร ที่สวนสมเด็จพระเทพฯ

สวนสมุนไพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) สร้างสวนสมุนไพรแห่งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด มิติการเรียนรู้ด้านสมุนไพรอย่างสนุกสนานเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 20,000 ต้น ( 260 ชนิดโดยจัดกลุ่มจำแนกตามสรรพคุณการรักษาตามคัมภีร์ยาไทยโบราณ; 20 กลุ่มอาการ ) เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม พักผ่อนหย่อนใจ และศึกษาหาความรู้ด้านพฤษศาสตร์และสมุนไพร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่- อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษาซึ่งประกอบด้วยห้องประชุมสัมนา ห้องนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทย ทั้งที่ควรอนุรักษ์และที่ใกล้ตัวในวิถีชีวิตประจำวันโดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนำชมตลอดเส้นทาง โดยไม่เสียค่าใช้ใดๆทั้งสิ้น ในส่วนสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมีการชมโดยรถ NGV ( รถที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ) โดยมีมัคคุเทศก์บรรยายและนำชมตลอดเส้นทางเช่นเดียวกัน โดยรถ NGV จะออกทุก 30 นาที ( ตามตารางรอบกำหนด ) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นนอกจากนี้ทางส่วนสมุนไพรฯ ยังได้จัดให้มีร้านค้าส่วนบริการ ได้แก่ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก และร้านนวดเพื่อสุขภาพ ในอัตรา 150 บาท ต่อชั่วโมง เพื่อบริการนักท่องเที่ยวทั่วไป

สมุนไพร คืออะไร?

คำว่า "สมุนไพร (herbs)" มีคำจำกัดความได้หลายอย่าง ขึ้นกับว่าใช้กับเนื้อหาอย่างไร ทางด้านพฤกษศาสตร์ HERBS หมายถึงพืชมีเมล็ดที่ไม่มีแก่นไม้ (nonwoody) และตายเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเพาะปลูก ทางด้านอาหาร HERBS หมายถึงเครื่องเทศหรือผักที่ใช้แต่งรสหรือกลิ่นอาหาร แต่ทางด้านยา HERBS มีความหมายที่เฉพาะเจาะจง คำจำกัดความที่ถูกต้องที่สุดของ HERBS คือ ยาที่มาจากพืช ใช้รักษาโรคซึ่งมักเป็นโรคเรื้อรังหรือเพื่อทำให้/บำรุงรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

ด้านกฎหมายสมุนไพรยังจัดเป็นกลุ่มพิเศษ คือ กลุ่มอาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หากสมุนไพรใช้เพื่อการรักษาหรือบรรเทาอาการโรค หรือใช้เสริมสุขภาพ (เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยหรือป้องกันโรค) จะจัดเป็นยา อย่างไรก็ดีมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรจำนวนหนึ่งที่เป็นยาหรืออาหารหรือเป็นทั้งยาและอาหาร ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น กระเทียม หากใช้เพื่อแต่งกลิ่นและรสอาหาร กรณีนี้ชัดเจนว่า กระเทียมเป็นอาหาร เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์กระเทียมควบคุมความดันโลหิตหรือระดับโคเลสเตอรอลที่สูง กรณีนี้กระเทียมจัดเป็นยา (ในประเทศเยอรมนี) และจัดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ในสหรัฐอเมริกา) จึงเป็นไปได้ที่ผู้บริโภคบางรายใช้กระเทียมเป็นทั้งอาหารและยาในเวลาเดียวกัน ชาวอเมริกันดื่มน้ำพรุนเป็นเครื่องดื่มยามเช้า และเป็นยาระบาย

งานนี้เราได้รับความรู้และความเพลิดเพลิน ขอบคุณไปยังคณะเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่สวนสมเด็จพระเทพฯที่ดูแลและต้อนรับเราเป็นอย่างดี และที่ลืมไม่ได้ก็คือ ท่านผู้ปกครองปรีชา จิตบรรจง ผู้ปกครองสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง ได้ให้โอการเรามาทำกิจกรรมที่นี่ด้วยครับ.

03 กรกฎาคม 2552

แห่เทียนพรรษา2552



สวัสดีครับ วันนี้ก็เป็นอีกครั้งครับที่สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยองได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา นั่นก็คือการแห่งเทียนพรรษา งานนี้ก็ได้บุญกันถ้วนหน้าครับเพราะว่า วันนี้อากาศร้อน แต่ก็สู้ความตั้งใจของ บรรดาเจ้าหน้าที่และนักเรียนไม่ได้


สำหรับประวัติของวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา มีด้งนี้


ประวัติวันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา - วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา คือวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาหรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้ เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ณ มฤคทายวัน ตำบลอิสิปตนะ เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปสมัยโบราณซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยพระพุทธองค์ทรงเปรียบดังผู้ทรงเป็นธรรมราชา ก็ทรงบันลือธรรมเภรียังล้อแห่งธรรมให้หมุนรุดหน้า เริ่มต้นแผ่ขยายอาณาจักรแห่งธรรม นำความร่มเย็นและความสงบสุขมาให้แก่หมู่ประชา ดังนั้น ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรม

เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้วนั้นชมพูทวีปในสมัยโบราณ กำลังย่างเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองเฟื่องฟูทุกด้านและมีคนหลายประเภททั้งชนผู้มั่งคั่งร่ำรวย นักบวชที่พัฒนาความเชื่อและ ข้อปฏิบัติทางศาสนา เพื่อให้ผู้ร่ำรวยได้ประกอบพิธกรรมแก่ตนเต็มที่ ผู้เบื่อหน่ายชีวิตที่วนเวียน ในอำนาจและโภคสมบัติที่ออกบวช หรือบางพวกก็แสวงหาคำตอบที่เป็นทางรอกพ้นด้วยการคิดปรัชญาต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เหลือวิสัยและไม่อาจพิสูจน์ได้บ้าง พระพุทธเจ้าจึงทรงอุบัติในสภาพเช่นนี้ และดำเนินชีพเช่นนี้ด้วยแต่เมื่อทรงพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นขาดแก่นสาน ไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง แก่ตนเองและผู้อื่น จึงทรงคิดหาวิธีแก้ไขด้วยการทดลองต่าง ๆ โดยละทิ้งราชสมบัติ และอิสริยศแล้วออกผนวช บำเพ็ญตนนานถึง ๖ ปี ก็ไม่อาจพบทางแก้ได้ ต่อมาจึงได้ทางค้นพบ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เมื่อทรงปฏิบัติตามมรรคานี้ก็ได้ค้นพบสัจธรรมที่นำคุณค่า แท้จริงมาสู่ชีวิต อันเรียกว่า อริยสัจ ๔ ประการ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศก ๔๔ ปี ที่เรียกว่า การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นทรงงานประกาศศาสนาโดยทรงดำริหาทางที่ได้ผลดีและรวดเร็ว คือ เริ่มสอนแก่ผู้มีพื้นฐานภูมิปัญญาดีที่รู้แจ้งคำสอนได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปชี้แจงอธิบาย ให้ผู้อื่นเข้ามาได้อย่างกว้างขวาง จึงมุ่งไปพบนักบวช ๕ รูป หรือเบญจวัคคีย์ และได้แสดงธรรม เทศนาเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญ เดือน ๘

ผลจากการแสดงปฐมเทศนา

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแล้ว ปรากฏว่าโกณฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าเบญจวัคคีย์ได้เกิดเข้าใจธรรม เรียกว่า เกิดดวงตาแห่งธรรมหรือธรรมจักษุ บรรลุเป็นโสดาบัน จึงทูลขอบรรพชาและถือเป็นพระภิกษุสาวก รูปแรกในพระพุทธศาสนา มีชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ

ความหมายของอาสาฬหบูชา

พิธีกรรมที่กระทำในวันนี้ โดยทั่วไป คือ ทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) และสวดมนต์ ดังนั้นในวันนี้จึงถือว่า พุทธศาสนิกชนควรได้รับประโยชน์ ที่เป็นสาระสำคัญจากอาสาฬหบูชา กล่าวคือ ควรทบทวนระลึกเตือนใจสำรวจตนว่า ชีวิตเราได้เจริญงอกงามขึ้นด้วยความเป็นอยู่อย่างผู้รู้เท่าทันโลกและชีวิตนี้บ้างแล้วเพียงใด เรายังดำเนินชีวิตอยู่อย่างลุ่มหลงมัวเมา หรือมีจิตใจอิสระปลอดโปร่งผ่องใสบ้างแล้วเพียงใด


“อาสาฬหบูชา” (อา-สาน-หะ-บู-ชา/อา-สาน-ละ-หะ-บู-ชา) ประกอบด้วยคำ ๒ คำ คือ อาสาฬห (เดือน ๘ ทางจันทรคติ) กับบูชา (การบูชา) เมื่อรวมกันจึงแปลว่า การบูชาในเดือน ๘ หรือการบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในเดือน ๘ หรือเรียกให้เต็มว่า อาสาฬหบูรณมีบูชา

โดยสรุป วันอาสาฬหบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญ เดือน ๘ หรือ การบูชาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในวันเพ็ญ เดือน ๘ คือ

๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา
๒. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเริ่มประกาศพระศาสนา
๓. เป็นวันที่เกิดอริยสงฆ์ครั้งแรกคือการที่ท่านโกณฑัญญะรู้แจ้งเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จัดเป็นอริยบุคคลท่านแรกในอริยสงฆ์
๔. เป็นวันที่เกิดพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา คือ การที่ท่านโกณฑัญญะขอบรรพชาและ ได้บวชเป็นพระภิกษุ หลังจากฟังปฐมเทศนาและบรรลุธรรมแล้ว
๕. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงได้ปฐมสาวกคือ การที่ท่านโกณฑัญญะนั้น ได้บรรลุธรรม และบวชเป็นพระภิกษุ จึงเป็นสาวกรูปแรกของพระพุทธเจ้า

เมื่อเปรียบกับวันสำคัญอื่น ๆ ในพระพุทธศาสนา บางทีเรียกวันอาสาฬหบูชา นี้ว่า วันพระสงฆ์ (คือวันที่เริ่มเกิดมีพระสงฆ์)

วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น

"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด

ระหว่างเดินทางก่อนหยุดเข้าพรรษา หากพระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลายๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่า ที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้ง ถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม" ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขาร อันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา...

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่นๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น พร้อมฟังเทศน์ ฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้นอบายมุขต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง
นอกจากนี้ ยังมีประเพณีสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ "ประเพณีหล่อเทียนเข้าพรรษา" ประเพณีที่กระทำกันเมื่อใกล้ถึงฤดูเข้าพรรษา ซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณกาล การหล่อเทียนเข้าพรรษานี้ มีอยู่เป็นประจำทุกปี เพราะในระยะเข้าพรรษา พระภิกษุจะต้องมีการสวดมนต์ทำวัตรทุกเช้า – เย็น และในการนี้จะต้องมีธูป - เทียนจุดบูชาด้วย พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันหล่อเทียนเข้าพรรษาสำหรับให้พระภิกษุจุดเป็นการกุศลทานอย่างหนึ่ง เพราะเชื่อกันว่าในการให้ทานด้วยแสงสว่าง จะมีอานิสงฆ์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว ตามชนบทนั้น การหล่อเทียนเข้าพรรษาทำกันอย่างเอิกเกริกสนุกสนานมาก เมื่อหล่อเสร็จแล้ ก็จะมีการแห่แหน รอบพระอุโบสถ 3 รอบ แล้วนำไปบูชาพระตลอดระยะเวลา 3 เดือน บางแห่งก็มีการประกวดการตกแต่ง มีการแห่แหนรอบเมืองด้วยริ้วขบวนที่สวยงาม โดยถือว่าเป็นงานประจำปีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ "วันเข้าพรรษา" จะตรงกับวันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเข้าพรรษา

ร่วมกิจกรรมทำเทียนจำนำพรรษา

ร่วมกิจกรรมถวายผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัย แก่พระภิกษุสามเณร

ร่วมทำบุญ ตักบาตร ฟังธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล

อธิษฐานงดเว้นอบายมุขต่างๆ

***ข่าวดี ! สำหรับท่านใดที่ต้องการร่วมกิจกรรมกับทางสถานคุ้มครองฯ สามารถโทร. มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 038-684102 และ 081-6503948***

" เครือข่ายความดี ทุกทิศทั่วไทย ความสุข ความดี และปาฏิหารณ์ เกิดขึ้นทุกวันที่นี่ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง "




01 กรกฎาคม 2552

เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า


" เด็กเด็กเหมือนผ้าขาว
ผู้ใหญ่เราเปรียบเช่นสี
แต่งแต้มให้พอดี
ผ้าขาวนี้สีงดงาม "


เด็กเด็กหรือ คือผ้าเปื้อน หลายหลากสี
มีธุลี ฝุ่นจับ ซึมซับไว้
กิเลสหุ้ม ผูกมัด รึงรัดใจ
ทั้งผลักใส ฉุดดึงเปลี่ยน เวียนเกิดตาย

เป็นผ้าขาว เมื่อคราวบ่ม อบรมเด็ก
ตั้งแต่เล็ก ขยำฟอก สีลอกหาย
กิเลสหุ้ม มัดผูก ถูกทำลาย
เด็กทั้งหลาย เป็นผ้าขาว คราวฝึกตน

แท้ที่จริง โลกียะ คือผ้าเปื้อน
เด็กก็เหมือน ผู้ใหญ่ ไร้ฝึกฝน
เปื้อนเหมือนกัน ธุลีติต หุ้มจิตตน
ปุถุชน เสมอเหมือน เปื้อนธุลี

เด็กผู้ใหญ่ ชายหญิง แท้จริงเปื้อน
กิเลสเกลื่อน เปื้อนจิต ติดเป็นสี
โลภโกรธหลง ย้อมจิต ติดราคี
จึงไม่มี เด็กผ้าขาว ตามเล่าลือ

เป็นผ้าขาว ไร้ธุลี นี่ต้องซัก
ขยำหนักหนัก ฟอกน้ำยา มาหลายมื้อ
ธุลีลอก ออกหมดจด ขาวสดคือ
คนย่อมถือ ตากย้อม น้อมใช้งาน

เป็นจิตขาว วาวใส ได้เพราะขัด
เพราะกำจัด โลภโกรธหลง ปลงสังขาร
ใช้มรรคแปด ขัดจิตย่อง ผ่องตระการ
ข้ามสังสาร สู่วิมุติ หลุดพ้นกรรม

ขอบัณฑิต ผู้อ่าน ทั้งหญิงชาย
สุขใจกาย กุศลชุบ อุปถัมภ์
จงบรรลุ มัคคผล ดลพ้นกรรม
โลกุตตระธรรม เจริญยิ่ง ยิ่งยิ่งเทอญ ฯลฯ


เจริญในธรรมเจ้าครับ!!
(ปิดเสียง!คลิ๊กด้านบนภาพครับ)

ที่พึ่งทางใจ




เมืองไทย เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย ในแต่ละจังหวัด และที่เราลืมไม่ได้ถ้าหากเราจะพูดถึง สถานที่ที่เป็นแหล่ง ให้ความรู้ ทำกิจกรรม ที่พึ่งทางใจ ของเรา ทราบมั้ยครับ...ว่าคือที่ใด...ใช่แล้วครับ

หลายท่านคงร้อง อ๋อ...วัดนั่นไง

วันนี้ก็ถือโอกาส นำวัดที่สวยงามมาฝากท่านที่เข้าชมเว็บสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยอง เป็นพิเศษครับ และต้องขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ที่ใจดี มาเยี่ยมพวกเรา...

หากมีโอกาสเราหวังว่าจะได้ต้อนรับท่านในโอกาสต่อไปนะครับ

(ท่านใดที่ต้องการปิดเพลงสามารถคลิ๊กที่ด้านบนภาพเป็นรูปลำโพงครับ)

18 มิถุนายน 2552

พิธีวันไหว้ครู 52


ในวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ที่แสดงถึงความกตัญญูกตเวฑิตา ต่อผู้มีพระคุณ นอกจากพ่อแม่ แล้วอีกหนึ่งท่านที่เราต้องนึกถึง นั่นก็คือคุณครู ใช่แล้วครับ วันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมวันไหว้ครู ซึ่งทางสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กระยอง จังหวัดระยองจัดเป็นประจำทุกปี ปีนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ รวมถึง นักเรียนทุกคน ได้ร่วมกันรำลึกแสดงความเคารพ สำหรับงานในวันนี้เราได้เก็บภาพมาฝากท่านที่เข้าชมเว็บ มาให้ท่านอิ่มเอมกับพิธีที่ถือว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ เชิญท่านชมตามลำดับได้เลยครับ


พานพุ่มที่ใช้ในพิธีไหว้ครูซึ่งมาจากฝีมือของนักเรียนและคุณครู


บริเวณด้านหน้าเวที



ท่านผู้ปกครอง ปรีชา กำลังจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย


คณะผู้บริหารพร้อมคณะครู


ประธานนักเรียนกล่าวต่อหน้าประธานในพิธี


รองประธานนักเรียนนำสวดมนต์



เหล่าบรรดานักเรียนร่วมพิธีอย่างตั้งใจ



พร้อมเพรียง



ตัวแทนนักเรียน เข้ากราบไหว้ท่านผู้บริหารสถานคุ้มครองฯ


เข้ากราบหัวหน้าฝ่ายสังคมสงเคราะห์



กราบไหว้หัวหน้าฝ่ายการศึกษา


คุณครูระดับชั้น ป.1ก



คุณครูระดับชั้น ป.1ข



คุณครูระดับชั้น ป.2


คุณครูระดับชั้น ป.3



คุณครูระดับชั้น ป.4



คุณครูระดับชั้น ป.5



คุณครูระดับชั้น ป.6



คุณครูระดับชั้น ม.1



คุณครูระดับชั้น ม.2



คุณครูระด้บชั้น ม.3


คุณครูฝ่ายฝึกอาชีพ







คุณครูฝ่ายนาฏศิลป์


คุณครูฝ่ายช่าง



คุณครูดนตรี



คุณครูภาษาอังกฤษ


ท่านผู้บริหารกำลังเจิมหนังสือ



ครูองครักษ์ทำพิธีการไหว้พระพิฆเนศ







เติมหน้าผากนักเรียน เพื่อเป็นสิริมงคล










อนาตตของชาติ ที่เราต้องช่วยกันดูแล
นักเรียนดีเด่นแต่ละระดับ
ป.1 ข



ป.1ก



ป.2

ป.3



ป.4



ป.5



ป.6



ม.1



ม.2


ม.3


ฝึกอาชีพ


นักเรียนที่ช่วยเหลืองานครูดีเด่น



พ่อธงให้พรนักเรียน